Ads 468x60px

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เลือกรองเท้าอย่างไรที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ให้เกิดปัญหา

เวลาที่คุณสวมใส่รองเท้าติดต่อกันเป็นเวลานานๆ คุณเคยพบปัญหาเหล่านี้บ้างหรือเปล่า??...ปวดล้าบริเวณฝ่าเท้า หรือมีลักษณะเป็นหนังด้านๆคล้ายตาปลาที่ฝ่าเท้า นิ้วหัวแม่เท้าเก หรือมีอาการปวดล้าบริเวณนิ้วเท้า น่อง และหลัง ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจเกิดจาก “คุณสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมกับเท้าของคุณ" ถ้าปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานๆอาจเกิดอันตรายกับเท้าคุณได้นะค่ะ แต่ปัญหาเหล่านี้ สามารถป้องกันและบรรเทาได้ ด้วยการเริ่มต้นง่ายๆจากการให้ความสำคัญกับ “รองเท้าที่คุณสวมใส่”ค่ะ วันนี้...เราจึงได้นำเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อรองเท้าอย่างไร ที่ดีต่อสุขภาพและให้เหมาะสมในแต่ละบุคคลมาฝากค่ะ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อรองเท้าได้ถูกใจแล้ว ยังช่วยให้ให้เป็นผลดีต่อสุขภาพ และเหมาะกับคุณอีกด้วยนะค่ะ...ถ้าพรอมแล้วไปดู พร้อมกันเลยคร้า


คุณหมอนวพร แนะนำว่า ควรเลือกใส่รองเท้าที่เหมาะสมทั้งรูปแบบ และขนาดของรองเท้า แต่ถ้าเท้าของเรามีปัญหา ก็ต้องเลือกรองเท้าที่มีรูปแบบพิเศษให้เหมาะสมกับเท้าของเรา โดยได้ให้ หลักการเลือกรองเท้าไว้กว้างๆ ที่ใช้ได้ทั้งชาย-หญิง ดังนี้..
เลือกคู่ที่ขนาดเหมาะสม: ปลาย เท้าถึงส้นเท้า ส่วนกว้างที่สุดของเท้า (ฐานนิ้วเท้า) ต้องอยู่ตรงกับส่วนที่กว้างที่สุดกับรองเท้า ความยาวของรองเท้าที่เหมาะสมคือ ส้นเท้าจะชิดส้นรองเท้าพอดี และส่วนหัวรองเท้าจะเหลือพื้นที่เท่ากับความกว้างของนิ้วหัวแม่มือ เมื่อวัดจากนิ้วเท้าที่ยาวที่สุด (ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นนิ้วหัวแม่เท้าเสมอไป) ประมาณเศษหนึ่งส่วนสองนิ้ว หัวรองเท้ากว้างและลึกพอจนไม่กดและเสียดสีกับนิ้วเท้า และส่วนที่กว้างที่สุดของรองเท้าควรตรงและพอดีกับตำแหน่งที่กว้างที่สุดของ เท้า

เลือกซื้อรองเท้าช่วงบ่ายๆ: ถ้าต้องใช้ใส่เดินในช่วงกลางวัน ควรเลือกซื้อรองเท้าช่วงบ่าย เพราะหากรอถึงเย็น เท้าเราเมื่อผ่านการเดินมาตลอดทั้งวันจะมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากเลือดไหลเวียนลงสู่เท้ามากขึ้น ฉะนั้น จึงเหมาะที่จะเลือกรองเท้าช่วงบ่าย เพื่อป้องกันปัญหารองเท้าคับ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกิจกรรมและชีวิตประจำวันด้วย

ต้องลองรองเท้าทั้งสองข้างเสมอ: ปกติ แล้วเท้าคนเราสองข้างจะไม่เท่ากัน จึงควรลองสวมรองเท้าทั้งสองข้าง และเดินไปมาด้วย ว่าสบายเท้าหรือไม่ ควรจำไว้ว่าเวลาเลือกซื้อจะต้องลองสวม ต้องยืน และเดินทุกครั้ง

เผื่อที่...กันคับ: อุปกรณ์เสริมในรองเท้าต่างๆ เช่น แผ่นรองเท้า แผ่นกันรองเท้ากัด ฯลฯ จะทำให้รองเท้าคับแน่นขึ้น หากต้องใช้อุปกรณ์เหล่านั้นควรเลือกรองเท้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย

แบนไป...ไม่ดี: พื้นรองเท้าที่แบนราบเกินไปไม่เหมาะกับสรีระเท้าต่อการรับน้ำหนัก ดังนั้น หากต้องใส่รองเท้า ก็ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่ม และเสริมบริเวณอุ้งเท้าจะดีกว่า


การเลือกซื้อรองเท้าให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล

คนที่มักปวดฝ่าเท้าด้านหน้า: ปัญหา นี้พบบ่อยในผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ ดังนั้นผู้ที่มีอาการนี้จึงควรใส่รองเท้าส้นเตี้ย มีพื้นนิ่ม และมีหน้ารองเท้ากว้าง เพื่อลดการบีบและเสียดสีของเท้า

นักกีฬา: ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่มและมีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับแรงกระแทกได้ดี หากกีฬาที่เล่นใช้ปลายเท้าเป็นส่วนมากเช่น การวิ่ง ควรเลือกรองเท้าที่ออกแบบให้รองรับแรงกระแทกส่วนหน้าโดยเฉพาะ

คนที่มีเท้าแบน: ฝ่าเท้าแบนทำให้ปวดบริเวณกลางฝ่าเท้า เนื่องจากเอ็นซึ่งทำหน้าที่ยกอุ้งเท้าถูกดึงยืด ดังนั้นควรสวมรองเท้าที่เสริมอุ้งเท้า (พื้นรองเท้านูนขึ้นตรงอุ้งเท้า) เพื่อช่วยเส้นเอ็นพยุงอุ้งเท้า

คนที่มีอุ้งเท้าสูง: คน อุ้งเท้าสูงจะมีปัญหาปวดบริเวณฝ่าเท้าด้านหน้า และส้นเท้า เพราะการรับน้ำหนักของอุ้งเท้าส่วนกลางหายไป รองเท้าจึงควรมีลักษณะเสริมอุ้งเท้า เพื่อช่วยกระจายน้ำหนัก จากฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้ามาที่อุ้งเท้า และควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่มและมีความยืดหยุ่น

คนที่มักปวดส้นเท้า: การปวดส้นเท้าส่วนใหญ่เกิดจากจุดยึดพังผืดบริเวณส้นเท้าอักเสบ ซึ่งมักปวดมากในการเดินก้าวแรกหลังตื่นนอน เพราะพังผืดถูกยืดทันทีทันใด รองเท้าที่เหมาะกับปัญหานี้ ควรมีพื้นนิ่มมีส้นเล็กน้อย เพื่อถ่ายน้ำหนักไปยังเท้าส่วนหน้าการใส่รองเท้าที่มีการเสริมอุ้งเท้า และควรนวดฝ่าเท้าก่อนลุกจากเตียง

คนที่เป็นเบาหวาน: ผู้ป่วยเบาหวานมักมีปลายประสาททำงานผิดปกติ ทำให้เท้าชา มีนิ้วเท้าหงิกงอทำให้ฝ่าเท้าด้านหน้ารับน้ำหนักมาก และนิ้วเท้าเสียดสีกับหัวรองเท้า จึงควรเลือกใส่รองเท้าพื้นนิ่ม มีหัวลึกและกว้าง ห้ามใช้รองเท้าคีบเพราะอาจทำให้เกิดแผลบริเวณร่องนิ้วเท้าได้โดยไม่รู้ตัว และควรเลือกรองเท้าที่ปรับความกระชับได้ เพราะเท้ามักบวมๆ ยุบๆ

ผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูง: รองเท้าส้นสูงหรือ “รองเท้าสองชั่วโมง” ทำให้ผู้ใส่ดูสูง มีขาเรียวสวยขึ้น แต่การใส่ส้นสูงนานๆ อาจมีปัญหาปวดฝ่าเท้า นิ้วเท้า ปวดน่อง ปวดหลัง ผิวฝ่าเท้าส่วนหน้าอาจด้านและแข็งเป็นไต เพราะต้องรับน้ำหนักมาก ดังนั้น ควรใส่ส้นสูงเมื่อจำเป็น เช่น ออกงานกลางคืน และไม่ควรใส่นานเกินสองถึงสามชั่วโมง

จะเห็นได้ว่า ความนุ่มสบาย และความยืดหยุ่นของรองเท้า มีผลต่อเท้าและข้อเท้าโดยตรง เพราะถ้าพื้นนุ่มสบาย ยืดหยุ่น ก็จะลดการสะท้อนมาที่ ข้อ และสะโพกน้อยลง การเดินแต่ละก้าวปกติจะมีแรงกระแทกสะท้อนกลับมาปริมาณที่มาก เมื่อสวมรองเท้าที่ยืดหยุ่นมาก ก็จะช่วยลดลงได้มาก

คุณหมอนวพรยังฝากทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า:
"รองเท้า เป็นได้ทั้งตัวก่อปัญหา และตัวแก้ปัญหา ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับเท้าของเราหรือไม่ การดูแลสุขภาพเท้านั้น ไม่ต้องรอวัย หรือ เวลา ทุกคนต้องเริ่มต้นเร็วที่สุด กล่าวคือ เริ่มตั้งแต่วันนี้"

ได้ฟังคุณหมอแล้ว อย่างไร ก็ขอให้เราอย่าลืมดูแลสุขภาพเท้ากันบ้างนะค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: ผศ.พญ.นวพร ชัชวาลพาณิชย์
                                          ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
                                          คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
                                          มหาวิทยาลัยมหิดล
                                          แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคเท้า (Foot Problems)
                                          ภาพ : อินเทอร์เน็ต
                                          โดย ทิวสน ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=503116