Ads 468x60px

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เกร็ดความรู้เกี่ยวกับรองเท้า แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เกร็ดความรู้เกี่ยวกับรองเท้า แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

มารู้จักส่วนต่างๆ ของรองเท้าให้ถ่องแท้กันเถอะ!!

วันนี้ เราได้นำเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของรองเท้ามาฝากกันค่ะ ก่อนที่เราจะทราบเคล็ดลับ ข้อมูลดีๆเกี่ยวกับรองเท้า ก่อนอื่นเราควรจะมาทำความรู้จักส่วนต่าง ๆ ของรองเท้ากันก่อน เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลให้เลือกรองเท้าที่ดี ให้เหมาะกับตัวคุณยังไงล่ะค่ะ อย่างน้อยรู้ไว้บ้างก็ย่อมดีกว่านะ… เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามารู้จักส่วนต่างๆ ของรองเท้า พร้อมกันเลยค่ะ!!


· Vamp หรือ ส่วนบนบริเวณ ที่เป็นรูรองเท้าที่ใช้เชือกผูก ควรทำมาจากผ้าหรือหนังที่อ่อนนุ่มสักหน่อย เพราะหากแข็งเกินไป จะก่อให้เกิดตาปลาขึ้นบริเวณเท้า

· Toe Box หรือ ส่วนที่หุ้มนิ้วเท้า ซึ่งอาจจะมีทั้งรูปร่างกลมหรือรูปร่างเป็นเหลี่ยมก็ได้ เมื่อใส่รองเท้าแล้วบริเวณนี้ ควรจะเหลือพื้นที่เพื่อให้นิ้วเท้าขยับได้อย่าให้อัดแน่นบีบนิ้วเท้าจนเกินไป เพราะอาจทำให้นิ้วเท้าของเราผิดรูปผิดร่าง

· Heel Couter หรือ ส่วนพื้นบริเวณส้นเท้า เป็นส่วนรองรับน้ำหนักจากบริเวณส้นเท้าของเรา ควรจะบุด้วยวัสดุที่มีความอ่อนนุ่มแต่รับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพื่อที่ในเวลาก้าวเดินเท้าจะได้มีความมั่นคง ไม่ทำให้ล้มง่าย

· Heel Tab หรือ ส่วนของรองเท้า ที่ล้อมรอบเอ็นร้อยหวาย ควรจะบุด้วยวัสดุที่นุ่มและไม่มีตะเข็บ เพื่อป้องกันการเสียดสีผิวหนังบริเวณนั้น

· Sole หรือ ส่วนพื้นรองเท้า ประกอบไปด้วย Insole พื้นด้านในที่เท้าเราสัมผัส OutSole พื้นรองเท้าด้านนอก และ Midsole แผ่นที่รองรับแรงกระแทกอยู่ระหว่างกลาง พื้นรองเท้าที่ดีควรจะอ่อนนุ่มเพื่อกันการกระแทก และไม่ควรหนาจนเกินไป

· Heel หรือ ส่วนส้นเท้า เป็นส่วนที่สำคัญเพราะเป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักเวลาที่เราเดิน ควรจะเลือกส้นเท้าที่กว้างและนุ่ม ส้นรองเท้าไม่ควรเกิน 2 นิ้วเพราะส้นยิ่งสูงจะทำให้เจ็บฝ่าเท้าได้มากขึ้น

ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
ขอขอบคุณข้อูลดีๆ จาก: First Magazine
และโดย: คุณ pron_one จากเว็บ : วิชาการ.คอม
read more

เคล็ดลับ วิธีเลือกรองเท้ากีฬา พร้อมการดูแลสุขภาพเท้า


หลายคนมักประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่เท้าเมื่อออกกำลังกายเป็นเวลานานๆ ทั้งที่เนื่องมาจากการใส่รองเท้าที่ขนาดเท่าเท้าจริงเกินไป ในขณะออกกำลังกาย เราจะเคลื่อนไปข้างหน้า รวมทั้งนิ้วจะต้องกางออกเพื่อช่วยรองรับน้ำหนักตัว และการเคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าเท้าของเราจะมีขนาดเท่ากับคนอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่า จะต้องใส่รองเท้าเบอร์เดียวกัน เพราะรูปเท้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงควรใส่ใจกับการเลือกรองเท้าเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย และสุขภาพที่ดี

โดยมีวิธีง่ายๆ เช่น ควรซื้อรองเท้าในช่วงบ่ายของวัน เพราะเป็นช่วงที่เท้าจะขยายตัวเต็มที่ ถ้าจะให้ดี ควรเลือกซื้อรองเท้ากีฬา หลังจากเดินสักพักหรือหลังเล่นกีฬาเสร็จ เพราะเท้าจะมีขนาดเดียวกันกับขณะเล่นกีฬา รองเท้าที่เลือกควรมีพื้นนิ่มและมีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับแรงกระแทกได้ดี หากกีฬาที่เล่นมีการใช้ปลายเท้าเป็นส่วนมาก เช่น การวิ่ง ควรเลือกรองเท้าที่ออกแบบให้รองรับแรงกระแทกส่วนหน้าโดยเฉพาะ และเลือกเบอร์ใหญ่กว่ารองเท้าที่ใส่ปรกติเล็กน้อย เพื่อเผื่อพื้นที่ระหว่างนิ้วหัวแม่โป้ง กับส่วนหน้าของรองเท้า ป้องกันการบาดเจ็บของนิ้ว ควรลองรองเท้าทุกครั้งด้วยถุงเท้าที่เตรียมไว้ใส่เล่นกีฬา พร้อมทั้งรัดเชือกให้พอดี ถ้าหากเป็นไปได้ลองเดินหรือวิ่งระยะสั้นๆ สังเกตว่ามีส่วนใดเสียดสีเท้าหรือไม่ เพราะจุดเล็กๆ ที่รู้สึกนั้น จะกลายเป็นปัญหาใหญ่เมื่อคุณนำมาใช้จริง

ดูแลสุขภาพเท้า
การออกกำลังเพื่อบริหารข้อเท้าและกล้ามเนื้อเท้าอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาสู่ปลายเท้า ท่าบริหารทำได้โดยกระดกข้อเท้าขึ้น-ลงสลับกันช้าๆ หมุนข้อเท้าโดยหมุนเข้าและออกช้าๆ ใช้นิ้วเท้าจิกผ้าที่วางอยู่บนพื้นเพื่อบริหารกล้ามเนื้อเล็กๆ ในเท้า นั่งยกขาขึ้น เหยียดเข่าตึง แล้วกระดกข้อเท้าขึ้นค้างไว้ นับ 1-6 ในใจ ถือเป็น 1 ครั้ง หากการปวดเท้ามีการบวมร่วมด้วย และคลำดูเท้าแล้วอุ่นๆ แสดงว่าเป็นอาการอักเสบ ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษา

หลังจากเท้าต้องทำงานมาทั้งวัน หากมีเวลา การแช่เท้าในน้ำอุ่น หรือนวดฝ่าเท้าจะช่วยผ่อนคลายความตึงล้าของกล้ามเนื้อเล็กๆ ในเท้าได้ แต่ห้ามใช้ในผู้เป็นเบาหวาน ซึ่งมีผิวเท้าแห้ง เพราะการแช่น้ำจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น และห้ามใช้ในผู้ที่มีเท้าชา เพราะจะไม่รู้ตัวว่าน้ำนั้นร้อนเกินไป อาจทำให้เท้าพองได้
บทความ : รองเท้ากีฬา
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก: manager.co.th
read more

วิธีเลือกรองเท้ากีฬาที่ดี ให้ถูกประเภท เหมาะกับคุณ


วิธีเลือกรองเท้ากีฬาที่ดี - กีฬาทุกชนิด ต้องการความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวร่างกาย และกีฬาแต่ละชนิดนั้นก็ใช้กล้ามเนื้อและข้อต่อของร่างกายมากน้อยต่างกันออกไป ส่วนสำคัญที่ใช้ในการเคลื่อนไหวร่างกายคือเท้าของคุณ ปัจจัยแรกของการเล่นกีฬาคือการได้ออกกำลังกาย ปัจจัยอย่างรองก็ “รองเท้ากีฬา” การเลือกรองเท้ากีฬาที่ผิดพลาด อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณออกกำลังกายแบบไม่สนุก และสร้างปัญหาให้กับร่างกายคุณได้ในภายหลังนะค่ะ ดังนั้น วันนี้เราจึงมี เคล็ดลับวิธีเลือกรองเท้ากีฬา ที่ดีให้เหมาะกับคุณ มาฝากค่ะ ยังไงก็ขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี และสนุกสนานไปกับการออกกำลังกายกันถ้วนหน้านะค่ะ

เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือกรองเท้ากีฬาที่ดีนั้นควรเลือกจากจุดประสงค์ของคุณเสียก่อน ว่านำไปใช้เล่นกับกีฬาชนิดใด
รองเท้าสำหรับการเล่น Tennis: ต้องเป็นรองเท้าที่ป้องกันข้อเท้า ขณะที่มีการสไลด์ออกข้างได้อย่างดี อีกทั้งพื้นรองเท้าไม่จำเป็นต้องมีแผ่นกันกระแทกที่หนาเกินไป เพื่อการเคลื่อนตัวที่สะดวกสบาย

รองเท้าวิ่ง : รองเท้าวิ่งที่ดีจะต้องมีแผ่นรองเท้าที่กันกระแทก และจะต้องมีหุ้มส้นที่พอเหมาะ เพื่อป้องกันเอ็นอักเสบ ปวดส้นเท้า และกระดูกหัก
วิ่งจ็อกกิ้งระยะสั้น : สามารถเป็นรองเท้าสำหรับเดินทั่วไปด้วย รองเท้าที่เลือกควรเป็นรองเท้าที่นุ่ม เบา สวมใส่สบาย
วิ่งเป็นระยะทางไกล หรือวิ่งมาราธอน : ควรเป็นรองเท้าที่เบา มีแรงส่งเพื่อประหยัดแรงในการวิ่ง พื้นกลางควรรองรับการกระแทกวบคู่กับการยึดเกาะพื้นได้ดีด้วยเช่นกัน
วิ่งลู่ : รองเท้าควรเป็นแบบที่มีสายรัดเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้น่าจะเลือกรองเท้าที่มีการออกแบบให้สามารถเล่นกีฬาอย่างอื่นในยิมได้ด้วย เพราะการวิ่งบนลู่ส่วนใหญ่ใช้ในการเริ่มเล่นกีฬาประเภทอื่น เช่น การออกแบบให้รับน้ำหนักด้านข้างในการเล่นกีฬาประเภทการเต้น เป็นต้น

รองเท้าสำหรับเดิน: รองเท้าสำหรับเดินควรเป็นรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา และควรมีแผ่นกันกระแทกที่ส้นเท้าและบริเวณกลางฝ่าเท้า ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดบริเวณส้นเท้าและฝ่าเท้า นอกจากนี้พื้นรองเท้าควรจะมีลักษณะออกป้าน ๆ เพื่อให้การถ่ายเทน้ำหนักจากส้นเท้าไปยังนิ้วเท้าได้สะดวก และลดแรงกดทับที่ฝ่าเท้าได้อย่างดี

รองเท้าสำหรับปั่นจักรยาน: รองเท้าควรมีแถบรัดรองเท้าเพื่อให้สอดเท้าเข้าไปในบันไดจักรยานสะดวกขึ้น นอกจากนี้พื้นรองเท้าควรแน่นหนา เมื่อเราต้องใช้แรงถีบจักรยานออกไป

รองเท้ากีฬาประเภทเต้น: หรือกีฬาที่ต้องกระโดด หรือเคลื่อนไหวไปมา : ต้องมีความกระชับสูง ทรงรองเท้าควรเตี้ยเพราะยึดเกาะได้ดี ถ้าพื้นกลางมีระบบรองรับจะดีมาก รองเท้าที่ใช้งานแบบนี้ต้องมีน้ำหนักที่เบา เพื่อไม่ก่อให้เกิดอาการเมื่อยเวลาขยับร่างกายมาก ๆ และตรงฝ่าเท้าควรจะมีแผ่นกันกระแทกที่อ่อนนุ่ม เพราะส่วนนี้เป็นส่วนที่มีการกระแทกมากที่สุด

รองเท้าสำหรับการเล่น Basketball: พื้นรองเท้าต้องหนาและแข็งแรงเพื่อการทรงตัวที่ดี และต้องเป็นรองเท้าหุ้มข้อเพื่อป้องกันข้อพลิก

เน้นกีฬาทางน้ำและชายหาด: ก็ควรเป็นรองเท้าที่สวมใส่ง่าย เบา ทรายไม่เข้าเท้า คือเป็นแบบปิดทั้งหมด ไม่มีเชือก และระบายความชื้นได้เร็ว

Tip ... หากคุณเป็นคนที่เหงื่อออกเท้ามากเป็นพิเศษ ควรเลือกรองเท้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี แห้งสบาย และลดการระคายเคืองรองเท้ากีฬา อีกหนึ่งรองเท้า

สำหรับผู้ที่เล่นกีฬามากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ จำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้รองเท้าสำหรับกีฬาชนิดนั้น และโปรดจำไว้ว่าหากเราวิ่ง 400-800 กิโลเมตรหรือเต้นแอโรบิคมากกว่า 300 ชั่วโมง รองเท้าที่เราใส่จะสูญเสียคุณสมบัติในการกันกระแทกไป ฉะนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนรองเท้าทันทีที่เสื่อมสภาพ อย่าไปเสียดาย และหากเราใส่รองเท้าแล้วมีปัญหาปวดที่ส้นเท้า ฝ่าเท้าอาจจะต้องหาอุปกรณ์เสริม เช่น แผ่นรองส้นเท้า แผ่นรองฝ่าเท้า มาช่วย แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นแนะนำให้ลองเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก:
 First Magazine
ธนาคารกสิกรไทย
คุณ pron_one  ที่มา : วิชาการ.คอม
read more

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ดูดีแถมลดความอ้วนได้ เพียงแค่รู้จักเลือกรองเท้า



วิธีที่กล่าวต่อไปนี้ มันเป็นวิธีที่ง่ายในการลดน้ำหนัก และใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที เพราะถ้าเลือกอย่างระมัดระวัง เพียงแค่รองเท้า 1 คู่ สามารถมีผลในการลดความอ้วนอย่างมาก หากคุณสาว ๆ สวมใส่มัน เรียกได้ว่าเป็นการสร้างภาพมายา ให้รูปร่างของตนเองมีขนาดเล็กลง จากการแต่งกายนั่นเอง


การพิสูจน์ว่ารองเท้าคู่เดียวทำให้ความอ้วนลดลงได้นั้น เริ่มจากการลองให้ดูรูปภาพของผู้หญิงที่ใส่ชุดแบบเดียวกัน แต่คนหนึ่งใส่รองเท้าปกติ ส่วนอีกคนใส่รองเท้าส้นสูงเหมือนนางแบบ ภาพที่สะท้อนออกมาก็จะเห็นว่า คนที่สวมรองเท้าส้นสูงจะมีรูปร่างผอมลง เนื่องจากรูปทรงรองเท้าเป็นตัวทำให้เกิดภาพที่แตกต่างเหมือนมีเวทมนตร์ ทำให้คนอ้วนกลายเป็นคนผอมในเวลาไม่กี่วินาที


สำหรับรองเท้าที่ลดความอ้วนได้นั้น เป็นรองเท้าเปลือยส้น หรือรองเท้าส้นสูงที่เรียกกันว่า แพลต์ฟอร์ม (รองเท้าแบบที่มีพื้นรองเท้าบริเวณโหนกเท้าหนา และอาจจะต่อด้วยส้นรองเท้าที่เป็นแบบส้นเตารีด หรือส้นแบบต่างๆ) ซึ่งข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยโดยห้างสรรพสินค้า


ประเด็นที่รองเท้าส้นสูงช่วยให้ดูผอมได้ ยังมีการยืนยันจากคนดังที่ยอมรับว่า สูตรดังกล่าวเป็นที่รวมเทคนิคที่ทำให้ขายาว และต้นขาที่กระชับมากขึ้น เพราะในขณะที่เราเดินนั้น ร่างกายผลักดันกล้ามเนื้อออกไป จนทำให้เกิดพุงแฟบหรือไม่มีหน้าท้องนั่นเอง



ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: health.kapook.com
read more

ปัญหาที่มักเกิดขึ้นเมื่อใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม



"เท้า" เป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่ต้องรับบทหนักตลอดทั้งวัน ทุกคนจึงควรหันมาดูเอาใจใส่เท้าบ้าง และสิ่งที่ช่วยปกป้องเท้าของเราได้ดีก็คือ "รองเท้า" ซึ่ง ควรที่จะสวมรองเท้าตลอดเวลา แม้อยู่ในบ้าน เพื่อช่วยรับน้ำหนัก และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเท้าได้ แต่สิ่งที่ต้องเอาใจใส่มากไปกว่านั้นคือ รองเท้าที่เราสวมใส่จะต้องมีความเหมาะสมกับเท้าด้วย เพราะไม่เช่นนั้น รองเท้าอาจกลายเป็นตัวก่อปัญหาให้กับเราแทนได้

ผศ.พญ.นวพร ชัชวาลพาณิชย์ 
บ่ายวันก่อน ผมมีโอกาสได้สนทนากับ ผศ.พญ.นวพร ชัชวาลพาณิชย์ อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคเท้า (Foot Problems) คุณหมอชี้ว่า การเลือกรองเท้านั้น เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราหากเลือกรองเท้าผิดประเภท จะนำมาซึ่งต้นเหตุสารพัด และมีผลต่อสุขภาพแน่นอน โดยพร้อมกันนี้ คุณหมอเล่าให้ฟังถึง ปัญหาที่มักเกิดขึ้นเมื่อใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม ไว้ดังนี้...

นิ้วหัวแม่เท้าเก
ปัญหา นี้ เรามักจะพบในผู้ที่ใส่รองเท้าหน้าแคบ ทำให้นิ้วหัวแม่เท้าเกหรือบิดเข้าสู่นิ้วชี้ มีอาการปวดบริเวณข้อนิ้วหัวแม่เท้าที่นูนออก เพราะเสียดสีกับรองเท้า อาจเกิดหนังด้าน และมีการอักเสบของถุงน้ำที่บริเวณนี้ได้ บางครั้งนิ้วหัวแม่เท้าเบียดนิ้วเท้าอื่นๆ ทำให้นิ้วเกยกัน ถ้าเป็นมากจะพบนิ้วชี้เท้าถูกเบียดลอยขึ้นอยู่บนนิ้วหัวแม่เท้า ผิวด้านบนของนิ้วเท้าที่เกยกันอาจเสียดสีกับรองเท้า ทำให้เกิดหนังด้าน บางรายอาจมีอาการปวดจากเยื่อหุ้มข้อทางด้านในถูกดึงยืด และจากเส้นประสาททางด้านในถูกกดและดึงรั้งด้วย

นอกจากนี้การมีนิ้ว หัวแม่เท้าเก ทำให้นิ้วหัวแม่เท้าไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ภาระจึงตกอยู่กับฝ่าเท้าบริเวณนิ้วชี้ถึงนิ้วก้อยแทน ทำให้เจ็บบริเวณฝ่าเท้า และมีหนังด้านเกิดขึ้น

ปวดฝ่าเท้าด้านหน้า
พบ ได้ในผู้ที่ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ ซึ่งฝ่าเท้าจะต้องรับน้ำหนักมาก อาการปวดจะเกิดขึ้นเวลาเดินบนพื้นแข็ง หรือเวลาที่ใส่รองเท้าส้นสูง และความเจ็บจะลดลง เมื่อเดินบนพื้นนุ่มๆ หรือใส่รองเท้าพื้นนิ่ม และใส่รองเท้าส้นเตี้ย บางครั้งอาจมีอาการปวดร้าวไปที่นิ้วเท้าถึงข้อเท้า นอกจากนี้ยังพบหนังด้านบริเวณฝ่าเท้าอีกด้วย

มีหนังด้านหรือตาปลาที่ฝ่าเท้า
หนัง ด้านที่ฝ่าเท้า เกิดจากการกดทับที่มากกว่าปกติ และการเสียดสีของหนังด้านที่บริเวณด้านข้างของนิ้วหัวแม่เท้า และนิ้วก้อย มักเกิดจากการใส่รองเท้าหน้าแคบ ทำให้รองเท้าเบียด และเสียดสีกับนิ้วเท้า ส่วนหนังด้านบริเวณฝ่าเท้า มักเกิดจากการใส่รองเท้าส้นสูง ทำให้ฝ่าเท้าต้องรับน้ำหนักมากกว่าส้นเท้า และมักพบร่วมกับการปวดฝ่าเท้าด้านหน้า

ปวดล้าบริเวณนิ้วเท้า น่อง และหลัง
มักเกิดกับผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูง ทำให้กล้ามเนื้อเล็กๆ ในเท้า กล้ามเนื้อน่อง และหลัง ต้องทำงานหนักขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: ผศ.พญ.นวพร ชัชวาลพาณิชย์
                                          ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
                                          คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
                                          มหาวิทยาลัยมหิดล
                                          แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคเท้า (Foot Problems)
                                          ภาพ : อินเทอร์เน็ต
                                          โดย ทิวสน จาก : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=503116
read more

เลือกรองเท้าอย่างไรที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ให้เกิดปัญหา

เวลาที่คุณสวมใส่รองเท้าติดต่อกันเป็นเวลานานๆ คุณเคยพบปัญหาเหล่านี้บ้างหรือเปล่า??...ปวดล้าบริเวณฝ่าเท้า หรือมีลักษณะเป็นหนังด้านๆคล้ายตาปลาที่ฝ่าเท้า นิ้วหัวแม่เท้าเก หรือมีอาการปวดล้าบริเวณนิ้วเท้า น่อง และหลัง ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจเกิดจาก “คุณสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมกับเท้าของคุณ" ถ้าปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานๆอาจเกิดอันตรายกับเท้าคุณได้นะค่ะ แต่ปัญหาเหล่านี้ สามารถป้องกันและบรรเทาได้ ด้วยการเริ่มต้นง่ายๆจากการให้ความสำคัญกับ “รองเท้าที่คุณสวมใส่”ค่ะ วันนี้...เราจึงได้นำเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อรองเท้าอย่างไร ที่ดีต่อสุขภาพและให้เหมาะสมในแต่ละบุคคลมาฝากค่ะ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อรองเท้าได้ถูกใจแล้ว ยังช่วยให้ให้เป็นผลดีต่อสุขภาพ และเหมาะกับคุณอีกด้วยนะค่ะ...ถ้าพรอมแล้วไปดู พร้อมกันเลยคร้า


คุณหมอนวพร แนะนำว่า ควรเลือกใส่รองเท้าที่เหมาะสมทั้งรูปแบบ และขนาดของรองเท้า แต่ถ้าเท้าของเรามีปัญหา ก็ต้องเลือกรองเท้าที่มีรูปแบบพิเศษให้เหมาะสมกับเท้าของเรา โดยได้ให้ หลักการเลือกรองเท้าไว้กว้างๆ ที่ใช้ได้ทั้งชาย-หญิง ดังนี้..
เลือกคู่ที่ขนาดเหมาะสม: ปลาย เท้าถึงส้นเท้า ส่วนกว้างที่สุดของเท้า (ฐานนิ้วเท้า) ต้องอยู่ตรงกับส่วนที่กว้างที่สุดกับรองเท้า ความยาวของรองเท้าที่เหมาะสมคือ ส้นเท้าจะชิดส้นรองเท้าพอดี และส่วนหัวรองเท้าจะเหลือพื้นที่เท่ากับความกว้างของนิ้วหัวแม่มือ เมื่อวัดจากนิ้วเท้าที่ยาวที่สุด (ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นนิ้วหัวแม่เท้าเสมอไป) ประมาณเศษหนึ่งส่วนสองนิ้ว หัวรองเท้ากว้างและลึกพอจนไม่กดและเสียดสีกับนิ้วเท้า และส่วนที่กว้างที่สุดของรองเท้าควรตรงและพอดีกับตำแหน่งที่กว้างที่สุดของ เท้า

เลือกซื้อรองเท้าช่วงบ่ายๆ: ถ้าต้องใช้ใส่เดินในช่วงกลางวัน ควรเลือกซื้อรองเท้าช่วงบ่าย เพราะหากรอถึงเย็น เท้าเราเมื่อผ่านการเดินมาตลอดทั้งวันจะมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากเลือดไหลเวียนลงสู่เท้ามากขึ้น ฉะนั้น จึงเหมาะที่จะเลือกรองเท้าช่วงบ่าย เพื่อป้องกันปัญหารองเท้าคับ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกิจกรรมและชีวิตประจำวันด้วย

ต้องลองรองเท้าทั้งสองข้างเสมอ: ปกติ แล้วเท้าคนเราสองข้างจะไม่เท่ากัน จึงควรลองสวมรองเท้าทั้งสองข้าง และเดินไปมาด้วย ว่าสบายเท้าหรือไม่ ควรจำไว้ว่าเวลาเลือกซื้อจะต้องลองสวม ต้องยืน และเดินทุกครั้ง

เผื่อที่...กันคับ: อุปกรณ์เสริมในรองเท้าต่างๆ เช่น แผ่นรองเท้า แผ่นกันรองเท้ากัด ฯลฯ จะทำให้รองเท้าคับแน่นขึ้น หากต้องใช้อุปกรณ์เหล่านั้นควรเลือกรองเท้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย

แบนไป...ไม่ดี: พื้นรองเท้าที่แบนราบเกินไปไม่เหมาะกับสรีระเท้าต่อการรับน้ำหนัก ดังนั้น หากต้องใส่รองเท้า ก็ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่ม และเสริมบริเวณอุ้งเท้าจะดีกว่า


การเลือกซื้อรองเท้าให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล

คนที่มักปวดฝ่าเท้าด้านหน้า: ปัญหา นี้พบบ่อยในผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ ดังนั้นผู้ที่มีอาการนี้จึงควรใส่รองเท้าส้นเตี้ย มีพื้นนิ่ม และมีหน้ารองเท้ากว้าง เพื่อลดการบีบและเสียดสีของเท้า

นักกีฬา: ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่มและมีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับแรงกระแทกได้ดี หากกีฬาที่เล่นใช้ปลายเท้าเป็นส่วนมากเช่น การวิ่ง ควรเลือกรองเท้าที่ออกแบบให้รองรับแรงกระแทกส่วนหน้าโดยเฉพาะ

คนที่มีเท้าแบน: ฝ่าเท้าแบนทำให้ปวดบริเวณกลางฝ่าเท้า เนื่องจากเอ็นซึ่งทำหน้าที่ยกอุ้งเท้าถูกดึงยืด ดังนั้นควรสวมรองเท้าที่เสริมอุ้งเท้า (พื้นรองเท้านูนขึ้นตรงอุ้งเท้า) เพื่อช่วยเส้นเอ็นพยุงอุ้งเท้า

คนที่มีอุ้งเท้าสูง: คน อุ้งเท้าสูงจะมีปัญหาปวดบริเวณฝ่าเท้าด้านหน้า และส้นเท้า เพราะการรับน้ำหนักของอุ้งเท้าส่วนกลางหายไป รองเท้าจึงควรมีลักษณะเสริมอุ้งเท้า เพื่อช่วยกระจายน้ำหนัก จากฝ่าเท้าด้านหน้าและส้นเท้ามาที่อุ้งเท้า และควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นนิ่มและมีความยืดหยุ่น

คนที่มักปวดส้นเท้า: การปวดส้นเท้าส่วนใหญ่เกิดจากจุดยึดพังผืดบริเวณส้นเท้าอักเสบ ซึ่งมักปวดมากในการเดินก้าวแรกหลังตื่นนอน เพราะพังผืดถูกยืดทันทีทันใด รองเท้าที่เหมาะกับปัญหานี้ ควรมีพื้นนิ่มมีส้นเล็กน้อย เพื่อถ่ายน้ำหนักไปยังเท้าส่วนหน้าการใส่รองเท้าที่มีการเสริมอุ้งเท้า และควรนวดฝ่าเท้าก่อนลุกจากเตียง

คนที่เป็นเบาหวาน: ผู้ป่วยเบาหวานมักมีปลายประสาททำงานผิดปกติ ทำให้เท้าชา มีนิ้วเท้าหงิกงอทำให้ฝ่าเท้าด้านหน้ารับน้ำหนักมาก และนิ้วเท้าเสียดสีกับหัวรองเท้า จึงควรเลือกใส่รองเท้าพื้นนิ่ม มีหัวลึกและกว้าง ห้ามใช้รองเท้าคีบเพราะอาจทำให้เกิดแผลบริเวณร่องนิ้วเท้าได้โดยไม่รู้ตัว และควรเลือกรองเท้าที่ปรับความกระชับได้ เพราะเท้ามักบวมๆ ยุบๆ

ผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูง: รองเท้าส้นสูงหรือ “รองเท้าสองชั่วโมง” ทำให้ผู้ใส่ดูสูง มีขาเรียวสวยขึ้น แต่การใส่ส้นสูงนานๆ อาจมีปัญหาปวดฝ่าเท้า นิ้วเท้า ปวดน่อง ปวดหลัง ผิวฝ่าเท้าส่วนหน้าอาจด้านและแข็งเป็นไต เพราะต้องรับน้ำหนักมาก ดังนั้น ควรใส่ส้นสูงเมื่อจำเป็น เช่น ออกงานกลางคืน และไม่ควรใส่นานเกินสองถึงสามชั่วโมง

จะเห็นได้ว่า ความนุ่มสบาย และความยืดหยุ่นของรองเท้า มีผลต่อเท้าและข้อเท้าโดยตรง เพราะถ้าพื้นนุ่มสบาย ยืดหยุ่น ก็จะลดการสะท้อนมาที่ ข้อ และสะโพกน้อยลง การเดินแต่ละก้าวปกติจะมีแรงกระแทกสะท้อนกลับมาปริมาณที่มาก เมื่อสวมรองเท้าที่ยืดหยุ่นมาก ก็จะช่วยลดลงได้มาก

คุณหมอนวพรยังฝากทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า:
"รองเท้า เป็นได้ทั้งตัวก่อปัญหา และตัวแก้ปัญหา ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับเท้าของเราหรือไม่ การดูแลสุขภาพเท้านั้น ไม่ต้องรอวัย หรือ เวลา ทุกคนต้องเริ่มต้นเร็วที่สุด กล่าวคือ เริ่มตั้งแต่วันนี้"

ได้ฟังคุณหมอแล้ว อย่างไร ก็ขอให้เราอย่าลืมดูแลสุขภาพเท้ากันบ้างนะค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: ผศ.พญ.นวพร ชัชวาลพาณิชย์
                                          ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
                                          คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
                                          มหาวิทยาลัยมหิดล
                                          แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคเท้า (Foot Problems)
                                          ภาพ : อินเทอร์เน็ต
                                          โดย ทิวสน ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=503116
read more

วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รองเท้าส้นสูงคู่สวย ใส่ไม่เป็นอันตรายอย่างที่คิด

รองเท้าส้นสูงสำหรับผู้หญิงแล้วไม่ใช่เป็นเพียงแค่รองเท้าธรรมดา แต่รองเท้าส้นสูง สำหรับผู้หญิงหลาย ๆ คนแล้ว มันช่วยเพิ่มความมั่นใจ เพิ่มความโดดเด่น เสริมบุคลิกภาพและช่วยในการเข้าสังคมได้อย่างดี ยิ่งเมื่อใส่กับเสื้อผ้าหรือชุดที่เหมาะสม แต่คุณผู้หญิงรู้รึไม่ว่าการใส่ รองเท้าส้นสูง ที่นานและบ่อยจนเกินไปอาจจะทำลายสุขภาพและร่างกายของคุณได้


ผู้หญิงที่สวมรองเท้าส้นสูงเป็นประจำมักพบอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ง่ายกว่าผู้หญิงที่ใส่รองเท้าผ้าใบปกติมาก การใส่รองเท้าส้นสูงนาน ๆ ยังทำให้เกิดโรคข้อนิ้วหัวแม่เท้าเสื่อม นิ้วแข็งเกผิดรูป รวมทั้งยังอาจทำให้เกิดตาปลา เจ็บบริเวณเล็บหรือเป็นเล็บขบได้อีกด้วย

รองเท้าส้นสูง
ร่างกายจะไร้สมดุล ถ้าเราใส่รองเท้าส้นสูงไม่เป็น เช่น
- ทำให้หลังส่วนกลางบิดโค้งมากเกินไป
- เชิงกรานถูกยกอย่างไม่สมดุล ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณช่วงเชิงกรานทำงานหนัก
- เข่าต้องรับน้ำหนักมากขึ้น ทำให้เป็นโรคกระดูกหรือข้อต่ออักเสบได้
- การเดินเขย่งจะทำให้กล้ามเนื้อน่องสั้นขึ้น
- ข้อเท้าอาจจะแพลงได้ง่ายจากการเดินผิดท่า
- เท้าต้องรับหน้าที่หนักในการรักษาสมดุล ส่งผลต่อกระดูกฝ่าเท้าอาจจะมีอาการปวดเมื่อยจนถึงอักเสบได้ สำหรับการใส่ส้นสูงมากกว่า 1 นิ้วครึ่ง

เลือกรองเท้าส้นสูงอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง
1. เลือกรองเท้าส้นสูงในระดับความสูงที่ประมาณ 2 นิ้ว หรือ 2 นิ้วครึ่งกำลังดี ในกรณีที่ต้องการรองเท้าส้นสูงที่สูงกว่า 3 นิ้ว อาจจะใช้การแต่งกายช่วย เช่น การใส่กางเกงขายาว หรือ กระโปรงยาว เสริมบุคคลิคให้ดูสูงเพรียวแทน แต่ถ้าจำเป็นต้องใส่แนะนำเลือกส้นที่เป็นเส้นเล็ก แทนส้นตัน จะช่วยรับน้ำหนักได้ดี

2. วัสดุของรองเท้า ควรเลือกรองเท้าส้นสูงที่บุพื้นนิ่ม ๆ หน่อย หนังของรองเท้าต้องนุ่มใส่สบาย รองเท้าส้นสูงที่สูงเกิน 3 นิ้วควรมีสายรัด เพื่อการเดินที่สะดวก

3. ถ้าไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้าส้นสูงทั้งวันแนะนำให้หารองเท้าอีกคู่มาใส่เปลี่ยน ในช่วงเวลาธรรมดาเพื่อพักการทำงานของเท้า

ดูแลตัวเองง่าย ๆ เพื่อให้ใส่รองเท้าคู่สวยไปได้อีกนาน
หากมีอาการปวดเมื่อยเท้าจากการใส่รองเท้าส้นสูง ให้หาน้ำอุ่นแช่ด้วยระดับน้ำสูงครึ่งน่อง 10-15 นาที พร้อมทั้งออกกำลังเท้า โดยการกระดกปลายเท้าขึ้นลง เหยียดนิ้วเท้าบ้าง พร้อมหันฝ่าเท้าสลับเข้าออก แล้วใช้มือบีบนวดบริเวณอุ้งเท้า ซึ่งเป็นจุดที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทรวมอยู่เป็นจำนวนมาก

สปาเท้า เปิดเวลาพักผ่อนหลังใส่รองเท้าส้นสูงมาทั้งวัน
คุณอาจจะหาเวลาว่างในการดูแลเท้าของตัวเองบ้าง การทำสปาเท้าที่บ้านจะช่วยให้ฝ่าเท้าของคุณได้รับการพักผ่อน ลองหามะขามเปียกมาขัดเท้าของคุณ หลังจากนั้นตามด้วยสบู่โดยใช้แปรงสีฟันอันเก่า ๆ ของคุณมาถูบริเวณรอยดำ รอยด้าน หลังจากนั้นชุบโทนเนอร์ขัดบริเวณส้นเท้า จบด้วยการทาโลชั่นให้ทั่ว หยุดเดินแล้วพักเท้าซักพักแค่นี้ก็ช่วยให้เท้าของคุณพร้อมที่จะเจองานหนัก ๆ ได้อีกนานแล้วค่ะ

ขอขอบคุณขอมูลดีๆจาก: n3k.in.th
read more

การดูแลรักษารองเท้าให้ถูกต้องตามประเภทของหนัง ให้สวยทนนาน


สาวๆ ทั้งหลาย อาจมีรองเท้าหลายคู่ แต่จะทำอย่างไรให้รองเท้าอยู่ได้นาน นั้นเป็นเรื่องที่น่าคิดและให้ความสำคัญมากกว่า ลองคิดดูซิค่ะ...กว่าจะควานหาร้องเท้าที่ถูกใจได้มาแต่ละคู่ และอุตส่าห์เก็บเงินซื้อรองเท้าคู่ถูกใจมาได้ ถ้าใช้ไปได้ไม่เท่าไร รองเท้าเกิดแฮ้งค์ขึ้นมาคงไม่ดีแน่!! ดังนั้น เราจึงมีวิธีการดูแลรักษารองเท้าให้ถูกต้องตามประเภทของหนัง มาแนะนำค่ะ เพื่อรองเท้าคู่เก่งของคุณจะได้สวยและใหม่อยู่เสมอ

การดูแลรักษารองเท้าให้ถูกต้อง ตามประเภทของหนัง
อุปกรณ์สำคัญที่ควรมีติดไว้คือ สเปร์ยกันน้ำที่เหมาะสมกับวัสดุที่ทำรองเท้า ควรจะทำการฉีดก่อนที่จะสวมใส่ ถ้าเป็นไปได้ควรฉีดทิ้งไว้ในคืนก่อนที่จะทำการสวมใส่ จากนั้นเรามาดูวิธีการรักษาที่ถูกต้องกันดีกว่าคะ

รองเท้าหนัง

รองเท้าหนัง
รองเท้าแฟชั่นหนังนิ่ม
การทำความสะอาดจากพวกฝุ่นและรอยเปื้อนต่างๆ ควรทำความสะอาดโดยใช้กระดาษชุบน้ำ จากนั้นนำครีมขัดรองเท้ามาทางบางๆ

รองเท้าหนังแก้ว



หนังประเภทนี้ ถ้าดูแลไม่ดีหมดสวยทันทีเลยนะคะ ปัญหาของหนังแก้วคือมันจะเป็นรอย ขูดขีดได้ง่าย กว่าเราจะรู้ตัวอีกที รองเท้าสุดสวย ก็มีรอยขูดขีดๆ เต็มไปหมดแล้ว

วิธีแก้ปัญหา :
1. อย่าใช้นิ้วถูที่รอยดำ เพราะอาจจะทำให้เกิด รอยขีดข่วนอันใหม่ได้ ให้ใช้ผ้านุ่มๆ ชุบน้ำหมาดๆ เช็ดเบาๆ รอยดำก็จะหายไปเอง แต่ถ้ารอยขีดนั้น ลึกมาก ก็อาจจะต้องใช้ ครีมขัดอเนกประสงค์ ขัดซ้ำอีกที ก็จะช่วยรักษารองเท้าคู่แพงของคุณได้

2. ถ้าเก็บไว้นานๆ หนังแก้วจะกรอบแตก เป็นชิ้นเล็กๆ ซึ่งไม่มีทางแก้ไข ให้กลับมา เหมือนเดิมได้ แต่สามารถป้องกันได้ด้วย การเก็บรองเท้าไว้ในที่แห้ง ไม่ร้อน เช่น ในตู้ ในกล่อง ต้องจำไว้ว่าห้ามวางรองเท้าตากแดด ทิ้งไว้เป็นอันขาด ถ้าไม่อยากต้องซื้อรองเท้าคู่ใหม่

รองเท้าประเภทมีสายคาด


สายคาดคือหน้าตาอย่างหนึ่ง ที่ทำให้รองเท้าของคุณสวยเก๋ แต่สายพวกนี้ขาดง่ายกว่าที่คิด และมักจะมาขาด เอาในเวลาที่เราต้องการใช้ทุกทีสิน่า

วิธีแก้ปัญหา :
1. ถ้าใส่ไปนานๆ แล้วสายรองเท้าเริ่มหย่อนไม่ตึงอย่างเคย ให้เลิกใส่รองเท้าคู่นั้นไปก่อน ไม่อย่างนั้นสายอาจจะไปขาด กลางถนนให้คุณต้องเดินกะเผลกๆกลับบ้าน

2. ถ้าสายขาดกลางทาง วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือให้หาหนังยางเส้นใหญ่ๆ หลายๆเส้น รัดเท้าคุณกับรองเท้าเข้าด้วยกัน จากนั้นก็รีบกลับ หรือถ้าพอจะมีเวลา ก็ให้หาด้ายกับเข็มมาเย็บสายให้ติดกับรองเท้า เพื่อให้พอใส่ได้ไปก่อน แล้วค่อยเอาไปให้ ร้านซ่อมเย็บให้แน่นอีกที

รองเท้ากำมะหยี่ หรือรองเท้าหนังกลับ

รองเท้าหนังกลับ
รองเท้าแฟชั่นกำมะหยี่

หนังกลับมักจะถลอกง่าย แค่เดินชนนั่นชนนี่ หนังสวยๆ ก็ถลอกเป็นทางได้แล้ว

วิธีแก้ปัญหา :
ใช้แปรงพิเศษที่ใช้กับหนังประเภทนี้เท่านั้นทำการแปรงสิ่งสกปรกออกจากรองเท้า และให้ใช้น้ำยาพิเศษที่ใช้ในการทำความสะอาดในกรณีที่ใช้แปรงอย่างเดียวไม่พอ ไม่ควรขัดหรือถูพื้นผิวของรองเท้าอย่างแรง เนื่องจากอาจเกิดความเสียหายกับรองเท้าและรองเท้าอาจสูญเสียคุณสมบัติเฉพาะตัวและรูปลักษณ์ภายนอก เมื่อรองเท้าสะอาดแล้วให้ทำดังนี้

1. ถ้ารองเท้าของคุณเป็นสีดำ หลังจากใช้ผ้าเช็ดฝุ่นที่ติดอยู่ออกจนหมดแล้ว ให้ใช้ปากกาเมจิสีดำเข้มแต้มเบาๆ ที่รอยถลอก แล้วทิ้งไว้สักพักเพื่อให้น้ำหมึกซึมเข้าไปในเนื้อรองเท้า จะแต้มทับหลายๆทีก็ได้ จนกว่าสีดำของหมึก กับรองเท้าจะกลมกลืนกัน

2. ถ้ารองเท้าของคุณเป็นสีอื่น อย่าใช้ปากกาเมจิแต้ม แต่ให้ใช้สเปรย์ไร้สี หรือ สเปรย์สีเดียวกับรองเท้าที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำในการฉีดเพื่อทำการรักษา

อ้อ…ก็อย่าลืมเอาไปปรับใช้กับรองเท้าหนังของคุณนะค่ะ เพื่อที่ร้องเท้าหนังของคุณจะได้ดูดีใหม่เอี่ยมตลอดเวลาและสวยทนนานเป็นรองเท้าคู่เก่งของคุณไปอีกนานไงละค่ะ!!

read more

วิธีแก้ปวดเท้า เมื่อยเท้า เพราะรองเท้าส้นสูงเป็นเหตุ

สำหรับคุณสาวๆ ทั้งหลายที่ต้องใส่รองเท้าส้นสูงติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะทำให้กล้ามเนื้อตรงน่องกับเอ็นร้อยหวายตึงมาก ยิ่งถ้าคุณต้องยืนหรือเดินไปไหนเป็นเวลานานๆ ด้วยแล้ว จะมีอาการเมื่อยเท้า ปวดเท้า เรียกได้ว่าแทบจะระบมเท้ากันไปหมดเลยใช่ไหมล่ะค่ะ ซึ่งถ้าขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีต่อสุขภาพเท้าของคุณเป็นแน่!! ดังนั้น เราจึงขอนำเสนอเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ในการแก้อาการ เมื่อยเท้า และ ปวดเท้า มาฝากค่ะ


วิธีแก้อาการปวด
เมื่อสาวๆ ทั้งหลาย เลือกรองเท้าใส่ครั้งแรกจะต้องรู้สึกสบายเท้า ควรออกกำลังเท้าข้อเท้าและส่วนอื่น ๆ ของเท้าอย่างสม่ำเสมอ ควรเพิ่มการดูแลรักษาเท้า เพราะเท้าเป็นส่วนของการรับน้ำหนักของร่างกายทั้งเดินและวิ่ง ควรถูนวดเท้าเป็นประจำและใช้แปรงชุบสบู่ขัดเท้าให้มองดูเล็บสะอาดและควรตัดแต่งเล็บเท้าทุกสัปดาห์ อย่าลืมเลือกรองเท้าที่สวมใส่สบายจะไม่ได้เมื่อยเท้าเวลาสวมใส่

ออกกำลังเท้า ข้อเท้า ด้วยท่าบริหารสำหรับสาวใส่ส้นสูง
การใส่ส้นสูงเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อตรงน่องกับเอ็นร้อยหวายตึงมาก ควรมีการยืดกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว วิธีการบริหารเริ่มจากยืนหันหน้าเข้ากำแพงและใช้แขนทั้งสองข้างยันไว้กับกำแพง ถ้าต้องการบริหารเท้าข้างไหน ก็ก้าวเท้านั้นถอยออกไปนิดนึง ให้ส้นเท้าแตะพื้นและปลายเท้าชี้ไปด้านหน้า จากนั้นโน้มตัวไปด้านหน้าเพื่อเป็นการยืดเส้น ค้างไว้อย่าขย่ม นับ 1-10 จากนั้นก็สลับข้างและทำเหมือนกัน

ท่าบริหารหลังมีหลายท่า แต่สำหรับคนที่ใส่ส้นสูงซึ่งแอ่นช่วงหลังเยอะ วิธีคลายกล้ามเนื้อหลังทำได้โดยนอนหงายกอดเข่าขึ้นและดึงให้ชิดหน้าอก ค้างไว้นับ 1-10 แล้วจึงปล่อยเข่าลง

ฝากไว้นิดนึง: ถ้าคุณสาวๆ จะใส่รองเท้าส้นสูงมาก ๆ ใส่ออกงานประมาณ 2-3 ชั่วโมง ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่อย่าใส่เดินเพลินทั้งวันก็แล้วกันนะ คงไม่ดีต่อสุขภาพเท้าของคุณเป็นแน่ค่ะ
read more

วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แฟชั่นรองเท้าส้นสูง พร้อมวิธีการเลือกให้เหมาะกับคุณ

เชื่อว่าสาวๆ ทั้งหลาย คงมีรองเท้าคู่โปรดคนละหลายๆ คู่ ทั้งรองเท้าใส่ไปเที่ยว หรือใส่ไปทำงาน เพื่อให้หยิบใช้ได้ตามโอกาสและเข้าชุดกับที่คุณใส่ และหนึ่งๆ ในประเภทรองเท้าที่คุณมีอยู่ก็อาจจะเป็นแฟชั่นรองเท้าส้นสูง ขอสวยขอสูงสง่าเพรียวระหงด้วยรองเท้าส้นสูง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่จะดีกว่าไหมถ้าคุณจะรู้วิธีใส่อย่างไรให้สวย และปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณเองด้วยข้อมูลน่ารู้ และคำแนะนำดี ๆ จาก นพ.ปริยุทธิ์ เจียรพัฒนาคม จากโรงพยาบาลเลิดสิน



วิธีเลือกรองเท้าส้นสูงมีข้อสังเกตง่าย ๆ อยู่ 2 ข้อด้วยกัน
1. ส่วนหัวของรองเท้า
ความกว้างของหัวรองเท้าต้องพอดี ขนาดต้องไม่แคบจนรู้สึกว่าบีบรัดนิ้วเท้าไว้แน่น เพราะความกว้างของหัวรองเท้า ถ้าแคบและไม่ได้มาตรฐานตามไซส์รูปเท้าของแต่ละคน ผลที่เกิดตามมาคือ นิ้วจะถูกบีบเข้าหากัน และนิ้วโป้งจะเป็นนิ้วที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด "นิ้วโป้งจะเกและเฉเข้ามาทางด้านนิ้วก้อย ถ้าเป็นมาก จะเฉจนโคนของนิ้วมีข้อปูดออกมา หรือถ้าแย่กว่านั้น นิ้วโป้งจะมุดเข้าไปอยู่ใต้นิ้วชี้ ลักษณะของนิ้วชี้จะขึ้นซ้อนอยู่บนนิ้วโป้ง ซึ่งถ้าเป็นลักษณะนี้ จะส่งผลให้ใส่รองเท้าไม่ได้เลย" แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณจะใส่รองเท้าหัวแหลมปรี๊ดไม่ได้นะ แต่คุณต้องเลือกดีไซน์ของหัวรองเท้าให้ดูเพรียวแหลมยาวเหลือพื้นที่ให้เท้าวางได้อย่างสบาย ไม่รู้สึกบีบรัดในขณะที่ลอง

2. ความสูงของส้นสูง
"ส้นสูงที่เกินกว่า 1 นิ้ว มักเป็นโทษมากกว่าประโยชน์" เพราะเมื่อเราใส่ส้นสูงลักษณะการยืนจะอยู่ในท่าเขย่ง โอกาสที่จะเกิดการพลิกจึงมีสูง อีกทั้งการยืนเมื่อใส่ส้นสูงยังเปรียบเสมือนการเล่นกล้าม สังเกตได้จากคนที่ใส่ส้นสูงบ่อย ๆ น่องจะเป็นกล้ามโป่ง สาเหตุก็มาจากการใช้กล้ามเนื้อตรงน่องช่วยทรงตัวเพื่อเขย่ง นอกจากนี้ การใส่ส้นที่สูงมากยังทำให้การทรงตัวของเราเหมือนเอียงล้มไปข้างหน้า ดังนั้น คนที่ใส่ส้นสูงจึงต้องพยายามแอ่นตัวขึ้น เพื่อพยุงตัวให้ตั้งตัวตรง





ข้อดีก็คือ ท่าทางการเดินของผู้หญิงจะดูสง่าขึ้น แต่ข้อเสียจากการที่ต้องแอ่นตัวตลอด คือกล้ามเนื้อหลังจะทำงานหนัก จนเกิดเป็นอาการปวดหลังตามมาหลังจากการใส่ส้นสูง" เมื่อกล้ามเนื้อในร่างกายส่วนไหนถูกใช้งานเยอะ เป็นธรรมดาที่ตรงบริเวณนั้นต้องการการพักผ่อนบ้าง "สำหรับคนที่ใส่ส้นสูงจนติด แนะนำให้เปลี่ยนมาใส่ส้นเตี้ยบ้าง สลับกันเพื่อให้กล้ามเนื้อหลังได้มีโอกาสพัก ไม่ควรใส่ส้นสูงคู่เดิมทุกวัน"

สำหรับวัสดุที่ใช้รองตรงพื้นส้นสูงควรเลือกชนิดที่เป็นแผ่นยาง จะมีโอกาสลื่นและล้มได้ยากกว่าพื้นส้นสูงที่ทำจากหนัง และถ้ารองเท้ามีวัสดุปูพื้นรองฝ่าเท้าด้านในยิ่งส่งผลดีกับเท้ามาก เพราะจะช่วยให้การกระจายของแรงไปได้ทั่วฝ่าเท้าเท่า ๆ กัน ซึ่งช่วยลดอาการปวดเท้าได้อีกทางหนึ่ง













ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : kapook.com
read more